ในโลกยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว “ช่องทางการสื่อสาร” กลายเป็นตัวแปรสำคัญที่กำหนดว่าธุรกิจจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ไม่ใช่ทุกแพลตฟอร์มที่เหมาะกับทุกแบรนด์ และไม่ใช่ทุกกลุ่มลูกค้าที่อยู่ในทุกที่ การเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคในแต่ละช่องทางคือกุญแจในการวางแผนกลยุทธ์ให้แม่นยำและคุ้มค่า
ภาพรวมของพฤติกรรมผู้บริโภคไทยบนแพลตฟอร์มออนไลน์
ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการใช้งานโซเชียลมีเดียสูงที่สุดในโลก โดยผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตไทยเฉลี่ยใช้งานมากกว่า 7 แพลตฟอร์มต่อวัน และใช้เวลามากกว่า 3–4 ชั่วโมงต่อวันบนโลกออนไลน์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงโอกาสทางการตลาดที่มหาศาล แต่ในขณะเดียวกัน แบรนด์ก็ต้องรู้จักคัดกรองแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มเป้าหมายและวัตถุประสงค์ทางธุรกิจอย่างแท้จริง
แพลตฟอร์มออนไลน์ยอดนิยมของคนไทย (ข้อมูลปี 2025)

Facebook ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่คนไทยใช้งานมากที่สุด โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 25–45 ปี ซึ่งเป็นกำลังซื้อหลักของตลาด ความโดดเด่นของ Facebook อยู่ที่ความยืดหยุ่นในการสื่อสาร ทั้งในรูปแบบโพสต์ภาพ วิดีโอ ไลฟ์สด การโฆษณาแบบละเอียด รวมถึงการสร้างคอมมูนิตี้ผ่านกลุ่ม (Groups)
ความเหมาะสมสำหรับแบรนด์:
- แบรนด์ที่ต้องการเน้นการสร้างฐานผู้ติดตาม
- ธุรกิจ SME ที่ต้องการเข้าถึงผู้บริโภคทั่วไป
- แบรนด์ที่ต้องการสร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) เช่น ร้านอาหาร ท่องเที่ยว แฟชั่น
รูปแบบการใช้งานที่ได้ผล:
- คอนเทนต์รีวิวลูกค้า
- ไลฟ์ขายของพร้อมโปรโมชั่น
- โฆษณาแบบ Lookalike Audience เพื่อเข้าถึงลูกค้าใหม่
YouTube
YouTube ครองใจผู้ใช้งานที่ต้องการเสพคอนเทนต์ยาว มีสาระ หรือให้ความบันเทิงลึกซึ้ง เช่น รีวิวสินค้า, คอร์สออนไลน์, สารคดี และรายการวาไรตี้ แบรนด์สามารถใช้วิดีโอสร้างความเชื่อมั่น (Trust) ได้ดี โดยเฉพาะในธุรกิจที่มีสินค้า/บริการซับซ้อน
ความเหมาะสมสำหรับแบรนด์:
- แบรนด์ที่เน้น Storytelling หรืออธิบายสินค้า
- กลุ่มธุรกิจสุขภาพ เทคโนโลยี การเงิน อสังหาริมทรัพย์
- ผู้ประกอบการที่ต้องการสร้าง Personal Branding
แนวทางที่ได้ผล:
- รีวิวจาก Influencer
- สร้างช่องของแบรนด์เป็นแหล่งให้ความรู้
- การโฆษณา Pre-roll (ก่อนเริ่มคลิป)
TikTok
TikTok คือแพลตฟอร์มที่กำลังเติบโตเร็วที่สุดในไทยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ด้วยผู้ใช้งานอายุเฉลี่ย 18–34 ปี ซึ่งนิยมคอนเทนต์สั้น กระชับ และน่าติดตาม จุดเด่นคืออัลกอริธึมที่ช่วยให้คอนเทนต์ดีสามารถเข้าถึงคนหมู่มากได้โดยไม่ต้องใช้เงินโฆษณามาก
ความเหมาะสมสำหรับแบรนด์:
- แบรนด์ใหม่ที่ต้องการสร้างการรู้จักแบบไวรัล
- สินค้าแฟชั่น ความงาม อาหาร เครื่องใช้
- แบรนด์ที่กล้าทดลองและสร้างสรรค์
กลยุทธ์แนะนำ:
- ทำชาเลนจ์ร่วมกับ Influencer
- รีวิวแบบ Real ใช้ชีวิตประจำวัน
- คลิปเบื้องหลังธุรกิจ
Instagram เป็นแพลตฟอร์มที่โดดเด่นด้านภาพลักษณ์ เหมาะกับแบรนด์ที่เน้นความสวยงาม มีสไตล์ และต้องการสร้าง Branding ที่แข็งแรง กลุ่มเป้าหมายหลักอยู่ในช่วงอายุ 20–35 ปี โดยเน้นที่กลุ่มมีกำลังซื้อระดับกลางถึงสูง
ความเหมาะสมสำหรับแบรนด์:
- ธุรกิจแฟชั่น, ความงาม, ท่องเที่ยว, อาหารพรีเมียม
- แบรนด์ที่เน้นภาพลักษณ์ทันสมัยและคุณภาพสูง
- กลุ่มธุรกิจที่ต้องการสื่อสารผ่านภาพและวิดีโอสั้น (Reels)
แนวทางการใช้:
- คุมโทนภาพให้สื่อสารบุคลิกแบรนด์
- ใช้ Reels เพื่อเพิ่ม Reach
- ทำแคมเปญร่วมกับ Micro-influencer
LINE และ LINE OA
LINE เป็นแพลตฟอร์มที่คนไทยใช้งานในชีวิตประจำวันทั้งด้านการสื่อสารส่วนตัว และติดตามแบรนด์ที่ชื่นชอบผ่าน LINE Official Account (LINE OA)
ความเหมาะสมสำหรับแบรนด์:
- ธุรกิจที่ต้องการสื่อสารแบบเฉพาะตัว เช่น โปรโมชั่นประจำวัน, แจ้งข่าวสาร
- ร้านค้าออนไลน์ที่ต้องการบริการหลังการขาย
- ธุรกิจที่ต้องการเก็บฐานลูกค้าและทำ CRM
กลยุทธ์ที่ได้ผล:
- ส่งคูปองสะสมแต้ม
- แชตบอตตอบคำถามอัตโนมัติ
- เก็บข้อมูลลูกค้าเพื่อใช้ทำ Lookalike
Shopee และ Lazada
สองแพลตฟอร์ม E-Commerce ยักษ์ใหญ่ของไทยที่คนส่วนใหญ่ใช้งานในขั้นตอนสุดท้ายของการตัดสินใจซื้อ สินค้าราคาย่อมเยาและโปรโมชั่นมักได้ผลดีในช่องทางนี้
ความเหมาะสมสำหรับแบรนด์:
- ผู้ค้าปลีก, แบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภค
- ธุรกิจที่ต้องการเร่งยอดขายผ่านแคมเปญ
- สินค้าความงาม, แฟชั่น, ของใช้ในบ้าน
แนวทางการทำตลาด:
- ทำ Flash Sale และใช้โค้ดส่วนลด
- ยิงโฆษณาในแอปเพื่อเพิ่ม Traffic
- ติดตามรีวิวสินค้าและตอบกลับอย่างมืออาชีพ
วิธีเลือกแพลตฟอร์มให้เหมาะสมกับแบรนด์ของคุณ
การเลือกแพลตฟอร์มไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าแพลตฟอร์มไหน “กำลังดัง” แต่ขึ้นอยู่กับว่า “ลูกค้าของคุณอยู่ที่ไหน” และคุณมีทรัพยากรพอจะสร้างคอนเทนต์ในรูปแบบใดได้บ้าง
วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย
- หากกลุ่มเป้าหมายคือคนวัยทำงาน → Facebook, LINE
- หากเป็นวัยรุ่น – คนเมืองรุ่นใหม่ → TikTok, Instagram
- หากเป็นกลุ่มผู้ชื่นชอบวิดีโอ – ความรู้ → YouTube
ประเมินประเภทสินค้าและรูปแบบเนื้อหาที่คุณถนัด
- ถ้าคุณถ่ายภาพสินค้าสวย → Instagram
- ถ้าคุณพูดเก่งและมีสตอรี่ → TikTok, YouTube
- ถ้าคุณมีแอดมินตอบเร็ว → LINE OA, Facebook
ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน
- หากต้องการ Awareness → YouTube, TikTok
- หากต้องการ Engagement → Facebook Group, Reels
- หากต้องการ Conversion → Shopee, LINE, Facebook Ads
กลยุทธ์แบบ Omnichannel สำหรับตลาดไทย
ตลาดไทยมีความเฉพาะตัวสูงในด้านความเชื่อ ความผูกพันกับแบรนด์ และพฤติกรรมการใช้งานหลายแพลตฟอร์มควบคู่กัน การทำการตลาดแบบ Omnichannel จะช่วยให้แบรนด์มีจุดเชื่อมต่อกับลูกค้าหลายทาง เช่น
- ใช้ TikTok ปล่อยคลิปไวรัล → เชื่อมโยงไปสู่การสั่งซื้อใน LINE หรือ Shopee
- ใช้ Facebook ไลฟ์ขายของ → ปิดการขายในกล่องข้อความ + LINE
- สร้างเนื้อหาเชิงลึกบน YouTube → ส่ง Traffic จาก Instagram หรือ Ads
สรุป
ในโลกการตลาดออนไลน์ ไม่มีคำตอบตายตัวสำหรับทุกแบรนด์ การเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย พฤติกรรมการใช้งานของคนไทย และวัตถุประสงค์ของแบรนด์อย่างลึกซึ้ง คือหัวใจของการเลือกช่องทางที่ใช่ และสร้างกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่าที่สุด
หากคุณต้องการทีมผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจตลาดไทย และช่วยคุณวางแผนกลยุทธ์ ในแต่ละแพลตฟอร์มอย่างมีประสิทธิภาพ
สามารถติดต่อทีมของเราได้ที่ Aemorph